การอภัยบาป ของ บาป (ศาสนาคริสต์)

แม้ว่ามนุษย์คู่แรกได้ทำผิดประสงค์ของพระองค์ในเรื่องชีวิตบนแผ่นดินโลก แต่นั่นหาได้ทำให้พระองค์ล้มเหลวไม่ โดยพระกรุณาอันไม่พึงได้รับต่อลูกหลานของอาดัมที่เกิดมา พระองค์ทรงเลือกอับราฮัม ชายผู้ยำเกรงพระเจ้า ตรัสสัญญากับท่านว่า จะมีพงศ์พันธุ์หนึ่งซึ่งจะมาบังเกิดในเชื้อวงศ์ของท่าน ผู้นี้จะได้กระทำตามการจัดเตรียมของพระเจ้า ที่จะช่วยมนุษย์โลกให้รอด พ้นจากบาป นั้นแสดงให้เห็นว่าผู้นี้จะต้องเป็นบุคคลที่แตกต่างจากมนุษย์ทั้งปวงที่มีบาป เพราะที่หนังสือเพลงสดุดี 49:7-9 กล่าวว่า "แน่​ที‍เดียว ไม่‍มี​คน‍ใด​ไถ่​พี่‍น้อง​ของ​ตน​ได้ หรือ​ถวาย​ค่า‍ไถ่​ตัว​เขา​แด่​พระ‍เจ้า เพราะ​ค่า‍ไถ่​ชีวิต​ของ​เขา​นั้น​แพงและ​ไม่‍เคย​พอ​เลย ที่​จะ​ให้​เขา​มี​ชีวิต​ตลอด‍ไป และ​ไม่​ต้อง​เห็น​หลุม‍มรณะ" จนกระทั่งหลายศตวรรตต่อมา หญิงพรหมจารีย์คนหนึ่งที่ชื่อมารีย์แห่งเมืองนาซาเรธ (ได้หมั้นไว้แล้วกับโยเซฟ) ได้รับแจ้งจากทูตสวรรค์ของพระเป็นเจ้าว่า "เธอ​จะ​ตั้ง‍ครรภ์​และ​คลอด‍บุตร‍ชาย จง​ตั้ง‍ชื่อ​บุตร​นั้น​ว่า​เยซู พระ‍วิญ‌ญาณ‍บริ‌สุทธิ์​จะ​เสด็จ​ลง‍มา​เหนือ​เธอ และ​ฤทธิ์‍เดช​ของ​ผู้‍สูง‍สุด​จะ​ปก​เธอ เพราะ‍ฉะนั้น​องค์‍บริ‌สุทธิ์​ที่​เกิด​มา​นั้น​จะ​ได้​ชื่อ​ว่า​เป็น​พระ‍บุตร​ของ​พระ‍เจ้า-พระวรสารนักบุญลูกา 1:31,35 นั่นจึงหมายความว่า พระเยซูจะกำเนิดมาโดยมิได้ปฏิสนธิเหมือนอย่างมนุษย์ทั่วไป เพียงแต่พระเจ้าอาศัยครรภ์ของนางมารีย์ เพื่อพระเยซูจะกำเนิดมามีเลือดเนื้อได้โดยไม่สืบทอดความบาปอย่างมนุษย์ แต่จะสมบูรณ์ ปราศจากบาป เหมือนอย่างอาดัมตอนที่ยังไม่ได้ทำบาป

เหตุการณ์นั้นมาเป็นที่ประจักษ์แก่ชาวยิวตามที่พระคัมภีร์พยากรณ์ เมื่อพระเยซูทรงรับบัพติศมาและเริ่มประกาศถึงความหวังแก่ผู้คนเพื่อให้เขาทราบว่าพระเมสสิยาห์ที่ทรงสัญญาคือพระคริสต์ ซึ่งจะต้อง"ให้ชีวิตของท่านเป็นค่าไถ่คนเป็นจำนวนมาก[4] และพระองค์ได้สละชีวิตที่สมบูรณ์เป็นเครื่องบูชาในปี 33 ส.ศ.พระองค์คือผู้ที่ยอห์นอัครทูตกล่าวว่า "พระ‍เจ้า​ทรง​รัก​โลก​ดัง‍นี้ คือ​ได้​ประ‌ทาน​พระ‍บุตร​องค์​เดียว​ของ​พระ‍องค์ เพื่อ​ทุก‍คน​ที่​วาง‍ใจ​ใน​พระ‍บุตร​นั้น​จะ​ไม่​พินาศ แต่​มี​ชีวิต​นิ‌รันดร์"-พระวรสารนักบุญยอห์น 3:16

ดังนั้นเอง การแสดงความเชื่อต่อการจัดเตรียมเกี่ยวกับค่าไถ่ที่พระเจ้าประทานให้โดยทางพระเยซู จึงเป็นหนทางที่มนุษย์คนใด ฯ ก็ตามที่มีความเชื่อจะกลับมีสัมพันธภาพอันดีกับพระเจ้าได้อีกครั้ง ขณะที่พวกเขาจะปฏิเสธหรือพยายามที่จะไม่ทำบาปอีก แต่เขาจะทำการเฉพาะที่จำเป็น เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานศีลธรรมที่พระเจ้าวางไว้ ครั้นแล้วการอภัยบาปจึงเป็นไปได้สำหรับคนนั้น แม้ว่าเขาอาจสิ้นชีวิตก่อนที่เครื่องบูชาไถ่ของพระเยซูจะสำเร็จครบถ้วน ณ ตอนสิ้นกำหนดพันปีก็ตาม เขายังคงได้รับการระลึกถึงโดยการกลับเป็นขึ้นจากตายเพื่อมีชีวิตอีกในช่วงพันปีของพระคริสต์ เวลาที่เรียกว่า "นครเยรูซาเล็มใหม่"[5] ตามคำสัญญาของพระเจ้า และเมื่อถึงคราวที่คุณค่าแห่งค่าไถ่ที่พระเยซูถวายแก่พระเจ้านั้นครบถ้วน ณ ตอนสิ้นกำหนดพันปีของพระคริสต์ มนุษย์สามารถปิติยินดีได้ที่พบฟ้าสวรรค์และโลกใหม่ "และ​ข้าพ‌เจ้า​เห็น​ฟ้า‍สวรรค์​ใหม่​และ​แผ่น‍ดิน​โลก​ใหม่ เพราะ‍ว่า​ฟ้า‍สวรรค์​เดิม​และ​แผ่น‍ดิน​โลก​เดิม​นั้น​หาย​ไป​แล้ว และ​ทะเล​ก็​ไม่‍มี​อีก‍ต่อ‍ไป และ​ข้าพ‌เจ้า​ได้​เห็น​นคร​บริ‌สุทธิ์ คือ​นคร‍เย‌รู‌ซา‌เล็ม​ใหม่​ลอย​ลง‍มา​จาก​สวรรค์​และ​จาก​พระ‍เจ้า นคร​นี้​เตรียม‍พร้อม​เหมือน​อย่าง​เจ้า‍สาว​ที่​แต่ง‍ตัว​ไว้​สำหรับ​สามี ข้าพ‌เจ้า​ได้‍ยิน​เสียง‍ดัง​จาก​พระ‍ที่‍นั่ง​ว่า “นี่‍แน่ะ ที่‍ประ‌ทับ​ของ​พระ‍เจ้า​อยู่​กับ​มนุษย์​แล้ว และ​พระ‍องค์​จะ​ประ‌ทับ​กับ​เขา‍ทั้ง‍หลาย พวก‍เขา​จะ​เป็น​ชน‍ชาติ​ของ​พระ‍องค์ พระ‍เจ้า​เอง​จะ​สถิต​กับ​เขา [และ​จะ​ทรง​เป็น​พระ‍เจ้า​ของ​เขา] พระ‍เจ้า​จะ​ทรง​เช็ด​น้ำ‍ตา​ทุกๆ หยด​จาก​ตา​ของ​เขา‍ทั้ง‍หลาย และ​ความ​ตาย​จะ​ไม่‍มี​อีก‍ต่อ‍ไป ความ​โศก‍เศร้า การ​ร้อง‍ไห้ และ​การ​เจ็บ‍ปวด​จะ​ไม่‍มี​อีก‍ต่อ‍ไป เพราะ​ยุค​เดิม​นั้น​ผ่าน​ไป​แล้ว”"[6]